การคาดการณ์ถึงโอกาสเกิดความผันผวนในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ที่เพิ่มขึ้น สร้างความกังวลต่อแนวโน้มขาขึ้นของตลาดหุ้นที่โชว์ฟอร์มอย่างร้อนแรงในปีนี้ โดยล่าสุด ดัชนี Kospi 200 Volatility Index (VKOSPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดความผันผวนในหุ้นเกาหลีใต้ พุ่งสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดทั่วโลกได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ โดยลักษณะการพุ่งขึ้นของดัชนีดังกล่าวต่างไปจากตัวชี้วัดความผันผวนในตลาดอื่น ๆ ซึ่งเมื่อเทียบกับดัชนี Cboe Volatility Index (VIX) ของฝั่งสหรัฐฯ จะพบว่าดัชนี VKOSPI มีช่วงห่างมากที่สุดนับจากปี 2004

ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 71% ในปีนี้ และคาดว่า จะทำสถิติเพิ่มขึ้นรายปีมากที่สุดนับจากปี 1999 แซงหน้าดัชนีในตลาดโลก โดยดัชนีหุ้นบลูชิป Kospi 200 ซึ่งใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับกองทุนประเภท Passive ยังเพิ่มขึ้นไปอีก 83% เนื่องจากผลกำไรกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มชิป เช่น Samsung Electronics และ SK Hynix ซึ่งมีสัดส่วนที่สูงในดัชนี

จุน กยุน (Jun Gyun) นักวิเคราะห์ตราสารอนุพันธ์จาก Samsung Securities ให้ความเห็นว่า ระดับของดัชนี VKOSPI บ่งบอกถึงความวิตกกังวลของนักลงทุน ในช่วงที่ดัชนี Kospi แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ไม่ได้แปลว่า ตลาดจะปรับฐานในเร็ว ๆ นี้ ความคาดหวังว่า ตลาดจะพุ่งขึ้นนั้นมีมากเกินไป และราคา Call option ดูเหมือนจะสูงเกินไป

ข้อมูลจากบลูมเบิร์กระบุว่า ราคาสัญญาออปชันทั้งในฝั่งที่คาดว่าตลาดจะปรับขึ้น (Call option) และฝั่งที่คาดว่าจะปรับลง (Put option) ต่างปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ความผันผวนโดยนัยช่วงหนึ่งเดือนของ Call option ที่ให้น้ำหนักว่า ดัชนี Kospi 200 จะเพิ่มขึ้น 10% อยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยหนึ่งปี และสูงกว่าฝั่ง Put option ที่มีมูลค่าเทียบเท่ากัน ซึ่งสะท้อนว่า เทรดเดอร์กำลังปรับโพสิชันเพื่อไม่ให้พลาดโอกาสจากการปรับขึ้นของตลาด

ขณะเดียวกัน ตลาดที่ซบเซาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติปรับการถือครองหุ้นเกาหลีใต้ โดยได้ขายสัญญาฟิวเจอร์สดัชนี Kospi 200 ออกไปประมาณ 1.65 ล้านล้านวอน (1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากดัชนีร่วงลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับจากเดือนเม.ย. โดยลดลงไป 3.7% แม้จะกลับมารีบาวน์ในช่วงสองวันที่ผ่านมา แต่ล่าสุดลดลง 2.9% จากจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 3 พ.ย.

ด้านจอห์น เลย์ (John Ley) ผู้เชี่ยวชาญด้านตราสารอนุพันธ์และความผันผวนจาก Clifton Derivatives ได้แนะนำล่าสุดให้ใช้ Options เพื่อป้องกันความเสี่ยง และเตือนล่วงหน้าถึงการซื้อขายสินทรัพย์เพื่อเก็งกำไร ขณะที่การปรับขึ้นของดัชนี Kospi ส่งสัญญาณความอ่อนล้าของตลาด

ที่มา Bloomberg