ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในเดือนก.ย.ที่เผยแพร่ล่าช้า พบว่าออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ โดยบวกแค่ 0.2% ซึ่งช่วยเปิดทางให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สามารถเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมหลังการประชุมในสัปดาห์นี้ ข้อมูลของสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงานที่มีความผันผวนสูง ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนส.ค. นับเป็นอัตราเพิ่มขึ้นที่ช้าที่สุดในรอบ 3 เดือน โดยถูกจำกัดด้วยการปรับขึ้นของต้นทุนที่อยู่อาศัยในอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2021 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวนับเป็นข่าวดี โดยเฉพาะสำหรับเจ้าหน้าที่เฟดบางส่วน ที่ยังกังวลต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง แม้ตลาดคาดการณ์อยู่แล้วว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ แต่นักลงทุนมองว่ารายงานฉบับนี้ อาจช่วยหนุนให้คณะกรรมการเห็นพ้องที่จะปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค. โดยเฉพาะหากไม่มีรายงานเงินเฟ้อ ฉบับใหม่ออกมา ในช่วงที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ เผชิญภาวะชัตดาวน์ รายงาน CPI เดือนก.ย. เดิมมีกำหนดเผยแพร่เมื่อวันที่ 15 ต.ค. แต่ต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากการปิดหน่วยงานภาครัฐ นับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. โดย BLS ได้เรียกพนักงานบางส่วนกลับมาทำงานเพื่อจัดทำรายงานนี้ให้สำนักงานประกันสังคมสหรัฐฯ เพื่อใช้ในการคำนวณปรับเพิ่มเงินสวัสดิการประจำปี ซึ่งจะเพิ่มขึ้น 2.8% ในปีหน้า นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่า คุณภาพของข้อมูลเดือนก.ย.ยังเชื่อถือได้ เนื่องจากการเก็บข้อมูลเสร็จสิ้นก่อนรัฐบาลจะปิดทำการ อย่างไรก็ดี BLS ไม่สามารถเก็บข้อมูลเงินเฟ้อใหม่เพิ่มเติมได้ นับตั้งแต่นั้นมา โดยบัญชี X ที่เชื่อมโยงกับทำเนียบขาวระบุว่า “เดือนหน้าจะไม่มีการเผยแพร่รายงานเงินเฟ้อเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์” ซึ่งโฆษก BLS ระบุว่า “เมื่อการจัดสรรงบประมาณกลับมา หน่วยงานจะกลับมาดำเนินงานตามปกติและแจ้งกำหนดการเผยแพร่ข้อมูลใหม่ให้สาธารณชนทราบ” 
ดัชนีราคาสินค้า (ไม่รวมอาหารและพลังงาน) เพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลง โดยได้แรงกดจากราคารถยนต์มือสองที่ลดลง ขณะที่สินค้าบางประเภทที่ได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้า เช่น เฟอร์นิเจอร์และสินค้าสันทนาการปรับตัวสูงขึ้น ส่วนราคาเสื้อผ้าขยายตัวเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในรอบ 1 ปี ขณะที่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (ไม่รวมพลังงาน) เพิ่มขึ้น 0.2% ส่วนหนึ่งมาจากค่าโดยสารเครื่องบินที่ชะลอตัวและราคาที่อยู่อาศัยทรงตัว หลังพุ่งขึ้นแรงในเดือนก่อนหน้า โดยหมวดค่าเช่าที่อยู่อาศัยเทียบเท่าเจ้าของบ้าน(owners’ equivalent rent) เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ซึ่งคิดเป็นประมาณ 1 ใน 4 ของ CPI ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม หากตัดหมวดที่อยู่อาศัยและพลังงานออก พบว่าดัชนีราคาบริการยังคงแข็งแกร่ง สะท้อนแรงกดดันด้านราคาที่เฟดให้การจับตาอย่างใกล้ชิด หลังผ่อนคลายลงในช่วงครึ่งปีแรก แต่เริ่มเร่งตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ในหมวดค่าใช้จ่ายครัวเรือน พบว่าราคาอาหารชะลอตัวลง แต่ธัญพืชและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับราคาน้ำมันเบนซินที่พุ่งขึ้น ขณะที่เบี้ยประกันภัยรถยนต์ปรับตัวลดลง ข้อมูลแยกต่างหากระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ เดือนต.ค.ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ท่ามกลางความกังวลต่อราคาสินค้าที่สูงต่อเนื่อง ทั้งนี้ รายงาน Beige Book ของเฟดยังระบุด้วยว่า บริษัทต่าง ๆ ทั่วประเทศ ประสบกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากภาษีในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ผลกระทบต่อผู้บริโภคจะไม่เท่ากัน โดย Procter & Gamble คาดผลกระทบจากภาษีและราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะลดลง ส่วน O’Reilly Automotive ปรับราคาขายเพื่อชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ที่มา Bloomberg 
|