ทำเนียบขาวประกาศว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน จะพบกันในวันพฤหัสบดีหน้า ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ที่จัดขึ้นในเกาหลีใต้ ซึ่งทั้ง 2 ผู้นำของชาติเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งเป้าที่จะลดความตึงเครียดของสงครามการค้าที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน 

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า “ผมคิดว่าผลการพบปะครั้งนี้ จะออกมาดีมาก และทุกคนจะรู้สึกพึงพอใจ” โดยการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศเกาหลีใต้ ในฐานะเจ้าภาพการประชุม APEC ปีนี้ โดยถือเป็นการพบปะกันแบบตัวต่อตัวครั้งแรก ของทั้ง 2 ผู้นำ นับตั้งแต่ประธานาธิบดีทรัมป์ กลับมาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในเดือนม.ค. โดยทั้งคู่ได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์มาแล้วอย่างน้อย 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนก.ย. ที่ผ่านมา

ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวย้ำมาหลายครั้งว่า การเจรจาโดยตรงกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการแก้ไขปัญหาที่ยืดเยื้อระหว่าง 2 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ภาษี การจำกัดการส่งออก การนำเข้าสินค้าเกษตร การลักลอบค้ายาเฟนทานิล รวมถึงประเด็นภูมิรัฐศาสตร์อย่างไต้หวัน แม้ประธานาธิบดีทรัมป์จะชื่นชม “ความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม” กับผู้นำจีน แต่การพบกันครั้งนี้ จะเป็นบททดสอบสำคัญ หลังความตึงเครียดทวีขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์เคยกล่าวเป็นนัยว่า อาจยกเลิกการพบปะกัน เนื่องจากไม่พอใจที่จีนใช้มาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายาก (rare-earth minerals)

หลังรายงานดังกล่าว พบว่านักลงทุนในเอเชีย ให้การตอบรับอย่างคึกคัก โดยดัชนีฟิวเจอร์สของญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ฮ่องกง และจีน ต่างปรับตัวขึ้นตามทิศทางของวอลล์สตรีท สะท้อนความหวังว่าความตึงเครียดทางการค้าจะเริ่มคลี่คลาย

การพบกันครั้งนี้ มีขึ้นในจังหวะที่ข้อตกลงพักรบทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะหมดอายุในวันที่ 10 พ.ย. หากไม่มีการขยายเวลา โดยการชะลอการขึ้นภาษีดังกล่าว ซึ่งได้รับการต่ออายุมาหลายครั้งในปีนี้ มีส่วนช่วยลดแรงกดดันระหว่าง 2 ประเทศ แต่ล่าสุดสถานการณ์เริ่มกลับมาร้อนแรง หลังสหรัฐฯ ขยายขอบเขตการจำกัดเทคโนโลยี และพิจารณาเก็บภาษีใหม่ต่อเรือสินค้าจีนที่เข้าเทียบท่าในสหรัฐฯ รวมถึงอาจเพิ่มข้อจำกัดการส่งออกซอฟต์แวร์ขั้นสูงอีกหลายประเภท ในทางกลับกัน จีนได้ออกมาตรการ จำกัดการส่งออกแร่หายากและแร่สำคัญอื่น ๆ ที่เป็นวัตถุดิบหลักของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี พลังงาน และการขนส่งทั่วโลก

ประธานาธิบดีทรัมป์ ขู่ว่าจะเก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มเติมอีก 100% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. หากจีนไม่ผ่อนคลายข้อจำกัดด้านแร่หายาก แม้จะยอมรับว่าอัตราภาษีที่สูงเช่นนี้ไม่อาจยั่งยืนได้ก็ตาม โดยการจำกัดส่งออกแร่หายากดังกล่าวของจีน ได้สร้างแรงกระเพื่อมในตลาดโลก ทำให้หลายประเทศเริ่มมองหาห่วงโซ่อุปทานใหม่ และเตรียมมาตรการตอบโต้

ทั้งนี้ การพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะเป็นหมุดหมายสำคัญในทริปเยือนเอเชียของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งรวมถึงการเยือนมาเลเซียและญี่ปุ่นด้วย

ที่มา Bloomberg