กระทรวงพลังงาน ยันการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาด 2,100 MW ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย ช่วยลดการนำเข้า LNG พร้อมเร่งจัดทำ PDP 2025 เพื่อเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าสะอาดให้สอดคล้องสถานการณ์ในปัจจุบัน พร้อมเตรียมรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มชุมชน ตามนโยบาย Quick Big Win 2.16 - 2.20 บาทต่อหน่วย มั่นใจไม่กระทบค่าไฟฟ้าในภาพรวม นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จากความกังวลเกี่ยวกับการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด จำนวน 2,100 MW นั้น กระทรวงพลังงานขอยืนยันว่า การรับซื้อไฟฟ้าเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งได้มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบกระบวนการพิจารณา โดยมี สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและกรมบัญชีกลางซึ่งผลการตรวจสอบพบว่าดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนการเปรียบเทียบราคารับซื้อไฟฟ้าของภาคเอกชนนั้น การพิจารณาจะต้องรวมถึงการซื้อหรือเช่าที่ดิน และต้องมีการเดินสายส่งเชื่อมต่อเข้าไปด้วย นอกจากนี้ ดอกเบี้ยและต้นทุนต่างๆ ของเอกชน จะสูงกว่าของ กฟผ. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่เล็กน้อย ทั้งนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้คำนวณอัตราค่าไฟฟ้า หากต้องดำเนินการลักษณะเดียวกับภาคเอกชนแล้ว อัตราค่าไฟฟ้าจะอยู่ประมาณ 2.19 บาทต่อหน่วยสำหรับโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม และ 4.37 บาทต่อหน่วยสำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานลม 
นอกจากนั้น กพช. ได้มีมติ ให้ กกพ. และ กฟผ. ขอความร่วมมือให้เอกชนลดราคาขายไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะได้รับความร่วมมือจากเอกชนทุกราย ทั้งนี้ กระทรวงพลังงาน มีแผนที่จะให้ กฟผ. สร้างโซลาร์ลอยน้ำเพิ่มเติมอีกกว่า 2,600 MW และ มีโอกาสที่จะขยายเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับแผน PDP ที่กำลังจัดทำอยู่ สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มชุมชน จำนวน 1,500 MW ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาลนั้น มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน นอกจากนั้น สามารถลดค่าไฟให้ชุมชนในพื้นที่ได้ 40 - 80 สตางค์ต่อหน่วย โดยคาดว่าจะมีอัตรารับซื้อค่าไฟ ประมาณ 2.16 - 2.20 บาทต่อหน่วย และโครงการดังกล่าวยังสามารถสร้างเม็ดเงินลงทุนให้กับประเทศกว่า 30,000 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด และ โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มชุมชน จะช่วยลดการนำเข้า LNG ได้ประมาณ 7.2 แสนตันต่อปี คิดเป็นมูลค่าประมาณ 16,000 ล้านบาทต่อปี และสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือ GHG Emission ได้ประมาณ 2.2 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ทำให้ประเทศสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย Net Zero 2050 "กระทรวงพลังงาน ขอยืนยันว่า การรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด เป็นไปตามมติ กพช. และการดำเนินการของ กกพ. ได้ผ่านการตรวจสอบโดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและกรมบัญชีกลางแล้วว่าดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนการเปรียบเทียบราคารับซื้อไฟฟ้าของภาคเอกชนจะต้องพิจารณาการซื้อหรือเช่าที่ดิน การเดินสายส่งเชื่อมต่อ ดอกเบี้ยและต้นทุนต่างๆ เข้าไปด้วย ซึ่งจะสูงกว่า กฟผ. เล็กน้อย นอกจากนี้ กกพ. และ กฟผ. อยู่ระหว่างการขอความร่วมมือให้เอกชนลดราคาขายไฟฟ้า คาดว่าจะได้รับความร่วมมือจากเอกชนทุกราย" นอกจากนี้ กระทรวงพลังงาน มีแผนที่จะให้ กฟผ. สร้างโซลาร์ลอยน้ำเพิ่มเติมอีกกว่า 2,600 MW และมีโอกาสที่จะเพิ่มตามแผน PDP และในส่วนของโครงการไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500 MW คาดว่าจะมีอัตรารับซื้อไฟประมาณ 2.16 - 2.20 บาทต่อหน่วย และสามารถลดค่าไฟให้ชุมชนในพื้นที่ได้ 40 - 80 สตางค์ โดยโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มชุมชน เป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย Quick Big Win ประชาชนในพื้นที่จะได้รับประโยชน์จากการขายไฟ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในพื้นที่และในภาพรวมของประเทศ ทั้ง 2 โครงการ จะช่วยทำให้ประเทศสามารถดำเนินการลดการนำเข้า LNG และยังลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ด้วย และเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมาย Net Zero 2050 และขอยืนยันว่า กระทรวงพลังงานจะเร่งจัดทำแผน PDP 2025 ให้เร็วที่สุด เพื่อให้สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับสถานการณ์และมีราคาที่เหมาะสม 
|