มารอส เซฟโควิช (Maros Sefcovic) กรรมาธิการด้านการค้าและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของ EU เปิดเผยว่า สหภาพยุโรป (EU) อยู่ระหว่างพิจารณาเข้าลงทุนโดยตรงในบริษัทเหมืองแร่ของออสเตรเลีย เพื่อสร้างความมั่นคงในการจัดหาวัตถุดิบเชิงยุทธศาสตร์ มาตรการดังกล่าว อาจรวมถึงการให้สถาบันการเงินของ EU เช่น ธนาคารเพื่อการลงทุนยุโรป (EIB) เข้าไปถือหุ้นในบริษัทเหมืองแร่ การทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ระหว่างรัฐบาลยุโรปกับผู้ผลิต รวมถึงการร่วมลงทุนในโครงการเหมืองแห่งใหม่ แร่สำคัญ โดยเฉพาะแร่หายาก ถือเป็นหัวใจของห่วงโซ่อุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ ตั้งแต่พลังงานหมุนเวียน ระบบป้องกันประเทศ ไปจนถึงเซมิคอนดักเตอร์ แต่ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกยังถูกครอบงำโดยจีน ส่งผลให้แร่ถูกนำมาใช้เป็นอาวุธทางการค้าในความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐฯ ส่งผลให้สหรัฐฯ เร่งเข้าถือหุ้นผู้ผลิตแร่ในออสเตรเลีย ขณะที่ EU เริ่มเดินตามแนวทางดังกล่าวด้วยเช่นกัน 
เซฟโควิชเปิดเผยว่า ได้หารือกับ ดอน ฟาร์เรล (Don Farrell) รัฐมนตรีการค้าของออสเตรเลีย และ เมดเดอลีน คิง (Madeleine King) รัฐมนตรีทรัพยากร เพื่อหาวิธีสนับสนุนห่วงโซ่คุณค่าของแร่สำคัญตั้งแต่การสกัด การกลั่น การแปรรูป ไปจนถึงการใช้งาน โดย EU เตรียมตั้งหน่วยงานรวมศูนย์จัดซื้อและสำรองแร่สำคัญ ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้ เกิดขึ้นหลังจากมีรายงานว่า EU เตรียมตั้งองค์กรกลางสำหรับจัดซื้อและสำรองแร่สำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้สหรัฐฯ กวาดซื้อวัตถุดิบทั่วโลกไปก่อน EU มีสัดส่วนคิดเป็นกว่า 16% ของการค้าโลกในสินค้าและบริการ กำลังเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับออสเตรเลียที่ล่าช้ามานาน โดยเซฟโควิชระบุว่า FTA ฉบับใหม่คืบหน้าอย่างมาก และหวังว่าจะปิดการเจรจาได้ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิปีหน้า ขณะที่สหรัฐฯ เดินหน้าทุ่มงบ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจับมือออสเตรเลียคุมซัพพลายแร่หายาก โดยเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามความร่วมมือกับออสเตรเลีย เพื่อเพิ่มการเข้าถึงแร่หายากและแร่สำคัญอื่น ๆ ของสหรัฐฯ เพื่อถ่วงอำนาจจีน โดยสหรัฐฯ และออสเตรเลีย ทุ่มเงินรวม 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน 6 เดือน สำหรับร่วมลงทุนเหมืองและโครงการต่าง ๆ ทั้งนี้ สหรัฐฯ ยังเตรียมให้เพนทากอน ร่วมสนับสนุนโครงการสร้างโรงกลั่นแกลเลียมของ Alcoa–Sojitz ขนาด 100 ตันต่อปีในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ขณะที่ธนาคารเพื่อการนำเข้า-ส่งออกสหรัฐฯ (US Ex-Im Bank) อยู่ระหว่างพิจารณาเงินสนับสนุน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับโครงการแร่หายาก Nolans ในดินแดนตอนเหนือ และยังออกหนังสือแสดงความสนใจสนับสนุนอีกกว่า 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับผู้ประกอบการเหมืองรวม 6 ราย ที่มา Bloomberg

|