บล.ทิสโก้ ประเมินหุ้นไทยยังผันผวนจากความไม่แน่นอนดอกเบี้ยสหรัฐฯ การเมืองในประเทศ คาดกลางธ.ค.เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น หนุนแรงซื้อจากกองทุนลดหย่อนภาษี พร้อมชูหุ้นเด่น ADVANC, CPALL, KTB, AMATA, BAM, SCCC และ TASCO แนวรับสำคัญ 1,250–1,260 จุด นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือนธันวาคมตลาดหุ้นไทย (SET Index) อาจแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์ดาวน์ รอความชัดเจนของทิศทางดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหรือไม่หลังตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ล่าช้ากว่ากำหนด ประกอบกับปัจจัยการเมืองในประเทศที่ตลาดยังคงกังวลเรื่องการยุบสภา 
มองว่า ช่วงนี้เป็นจังหวะสะสม-ทยอยตั้งรับ คาดหวังตลาดจะมีเสถียรภาพมากขึ้นในช่วงครึ่งเดือนหลังเมื่อปัจจัยข้างต้นมีความชัดเจน และมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นจากแรงขับเคลื่อนเงินกองทุนลดหย่อนภาษีทยอยไหลเข้า ผสานกับมูลค่าพื้นฐานหุ้นไทยซึ่งไม่รวมหุ้น DELTA (SET ex. DELTA) ถือว่าน่าสนใจเทียบเคียงช่วงวิกฤติ COVID-19 (อิงจากตัวแบบ Earning Yield Gap ที่ไม่รวมหุ้น DELTA) พร้อมมีเงินปันผลที่ดีช่วยจำกัดความเสี่ยงตลาดขาลงแม้ภาพเทคนิคยังเป็นลบอยู่ก็ตาม บล.ทิสโก้มองประเด็นหุ้นน่าสนใจในเดือนนี้ (1) หุ้นขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายลงทุนของ TESG แนะนำ ADVANC, CPALL, KTB และ (2) หุ้นที่มีเงินปันผลค่อนข้างสูงและมีปัจจัยบวกในระยะสั้น เด่น AMATA (ปันผล 5-6%, ได้ประโยชน์จากมาตรการ Thailand Fast Pass), BAM (ปันผล 7%, ได้ประโยชน์จากการจัดตั้ง JV AMC และคาดกนง.จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือน ธันวาคม) SCCC (ปันผล 7-8%, มีดีมานด์ซ่อมแซมหลังน้ำท่วม), TASCO (ปันผล 6%, มีดีมานด์ซ่อมแซมหลังน้ำท่วม) เพราะฉะนั้น หุ้นเด่นที่บล.ทิสโก้แนะนำเดือน ธันวาคม คือ ADVANC, AMATA, BAM, CPALL, KTB, SCCC และ TASCO ด้านแนวรับสำคัญดัชนีหุ้นไทยเดือนนี้อยู่ที่ 1,250-1,260 จุด และแนวรับถัดไปที่ 1,220-1,230 จุด และ 1,200 จุด แนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,300 -1,320 และ 1,345 จุด ตามลำดับ บล.ทิสโก้มองการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เดือน ธันวาคม นี้มีความไม่แน่นอนอยู่มากเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่รายงานล่าช้าจากปัญหาชัตดาวน์ก่อนหน้านี้จะทยอยออกมา อาจทำให้ตลาดประเมินโอกาสการปรับลดดอกเบี้ยของ FED เหวี่ยงไปเหวี่ยงมา โดยข้อมูลสำคัญทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย. จะรายงานในวันที่ 16 ธันวาคม และ 18 ธันวาคม ตามลำดับหลังการประชุม FED ในวันที่ 9-10 ธันวาคม อย่างไรก็ดีไม่ว่า FED จะลดดอกเบี้ยหรือไม่ในเดือนนี้ บล.ทิสโก้มองว่า FED ยังมีแนวโน้มจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในระยะข้างหน้า ในขณะที่การประชุมของธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ในวันที่ 17 ธันวาคม นี้ บล.ทิสโก้คาดจะลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เป็น 1.25% คาดจะเป็นผลดีต่อแนวโน้มการลงทุนในช่วงครึ่งเดือนหลัง ด้านการเมืองในประเทศดูไม่แน่นอนในระยะสั้น จากกระแสข่าวฝ่ายค้านเล็งยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจและอาจทำให้นายกฯ อนุทินชิงยุบสภาทันทีในวันแรกที่เปิดประชุมสภาสามัญประจำปีครั้งที่สอง 12 ธันวาคม นี้ หากการเมืองไทยสะดุด เข้าสู่สุญญากาศเร็วขึ้น อาจกระทบต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการผลักดันงานต่าง ๆ ของรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะมาตรการ “คนละครึ่งพลัส เฟส 2” อย่างไรก็ดี ในมุมมองกรณีฐานของบล.ทิสโก้ยังเชื่อว่าการยุบสภาจะเกิดขึ้นตามกำหนดการเดิม คือ สิ้นเดือน มกราคม ปีหน้า รอให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านวาระ 3 ไปก่อนในช่วงกลางเดือน มกราคม เพราะฉะนั้นการเมืองในประเทศจะเห็นความชัดเจนเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือน ธันวาคม ด้านทางเลือกการลงทุนหุ้นต่างประเทศโดยผ่าน DR เดือน ธันวาคม นี้ แนะนำ XIAOMI80 และ PANW80 สำหรับ XIAOMI (1810 HK) ราคาหุ้นปรับตัวลดลงกว่า 30% จากจุดสูงสุดของรอบในเดือน กันยายน ทำให้เริ่มมีอัพไซด์ที่น่าสนใจ ประกอบกับข่าวที่รัฐบาลจีนพร้อมที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนในประเทศทั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์ไฟฟ้าล้วนส่งผลบวกต่อหุ้น ในขณะที่ PANW80 (PANW US) ประกอบธุรกิจด้าน Cybersecurity ที่มีการเติบโตไปควบคู่ AI และ Cloud ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐฯ เช่นเดียวกัน แต่ยังมีระดับการประเมินมูลค่าที่ถูกกว่าและมีอัพไซด์ที่สูงกว่าหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ในกลุ่มอื่น 
|