
ซีอีโอ Strategy ระบุชัด การขายบิตคอยน์จะเกิดขึ้น “เฉพาะยามคับขัน” เมื่อราคาหุ้นต่ำกว่า mNAV และบริษัทไม่สามารถระดมทุนรอบใหม่ได้ ใช้เกณฑ์คำนวณทางการเงินเป็นตัวชี้วัด ไม่ใช่การเปลี่ยนยุทธศาสตร์
Phong Le ซีอีโอของ Strategy เปิดเผยในรายการ What Bitcoin Did ว่า บริษัทจะพิจารณาขายบิตคอยน์ก็ต่อเมื่อ mNAV (multiple to NAV) ของหุ้นหลุดต่ำกว่า 1 เท่าและบริษัทไม่สามารถระดมทุนเพิ่มเติมได้ ซึ่งในสถานการณ์นั้นการขายบิตคอยน์บางส่วน จะกลายเป็นการตัดสินใจที่สมเหตุสมผลเพื่อที่จะรักษา “ผลตอบแทนบิตคอยน์ต่อหุ้น”
แต่เขาก็ย้ำว่าการตัดสินใจขายจะเป็น “ทางเลือกสุดท้าย” ไม่ใช่การเปลี่ยนนโยบายของบริษัท “ผมไม่อยากเป็นบริษัทที่ต้องขายบิตคอยน์” พร้อมเสริมว่า เมื่อสภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวย วินัยทางการเงินต้องมาก่อนอารมณ์เสมอ
กลยุทธ์หลักของ Strategy คือระดมทุนในช่วงที่หุ้นซื้อขายเหนือมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (premium to NAV) และนำเงินไปซื้อบิตคอยน์เพิ่มต่อเนื่อง เพื่อให้จำนวน BTC ต่อหุ้นสูงขึ้น แต่หากพรีเมียมนี้หายไป การขายบิตคอยน์บางส่วนเพื่อรองรับภาระทางการเงินของบริษัท อาจเป็นตัวเลือกที่ผู้ถือหุ้นยอมรับได้ เพราะการออกหุ้นเพิ่มทุนในสภาวะดังกล่าวจะสร้างผลกระทบด้าน dilution ที่รุนแรงกว่า
ประเด็นนี้ยิ่งถูกจับตามอง ในขณะที่บริษัทต้องแบกรับภาระเงินปันผลประจำปีราว 750–800 ล้านดอลลาร์ จากหุ้นบุริมสิทธิชุดใหม่ที่เริ่มทยอยครบกำหนดปีนี้ โดย Strategy หวังใช้เงินระดมทุนจากรอบที่หุ้นยังมีพรีเมียมเป็นแหล่งจ่ายหลัก พร้อมระบุว่า “การจ่ายปันผลสม่ำเสมอแม้ในตลาดหมี” จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและดันราคาหุ้นให้เข้าใกล้หรือสูงกว่า mNAV อีกครั้ง
แม้เผชิญแรงกดดันด้านเงินทุน Strategy ยังย้ำวิสัยทัศน์ระยะยาวต่อบิตคอยน์ในฐานะสินทรัพย์หายากที่มีความต้องการทั่วโลก ไม่ขึ้นกับรัฐใดรัฐหนึ่ง พร้อมเปิดตัว “BTC Credit Dashboard” เพื่อแสดงความแข็งแกร่งของฐานะการเงินว่าแบกรับภาระหนี้และเงินปันผลได้แม้ราคา BTC จะนิ่งหรือปรับลง
Strategy ระบุว่า บริษัทยังสามารถรองรับภาระหนี้ได้หากราคาบิตคอยน์ร่วงลงสู่ต้นทุนเฉลี่ยประมาณ 74,000 ดอลลาร์ และยัง “จัดการได้” แม้ BTC จะร่วงลึกถึง 25,000 ดอลลาร์
ที่มา : Cointelegraph
แปลและเรียบเรียง : ชัชชญา อังคุลี
เชื่อมต่อ พูดคุย แลกเปลี่ยนไอเดียกับเราที่นี่>> efinanceThai-CONNECT