
James Wynn (@JamesWynnReal) เทรดเดอร์สายเลเวอเรจชื่อดังที่มียอดผู้ติดตาม 4.6 แสนราย โพสต์ข้อความเตือนผ่าน X พร้อมหัวข้อใหญ่ “PLEASE READ ชี้ประวัติศาสตร์อาจไม่ซ้ำรอย… แต่ก็มักมีรูปแบบหรือจังหวะที่คล้ายกันเสมอ”
เขายกตัวอย่างเหตุการณ์วิกฤติทางเศรษฐกิจในอดีต ได้แก่
ปี 1837–1843 สหรัฐอเมริกาเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ (United States Depression) ธนาคารจำนวนมากล้มละลาย ตลาดเก็งกำไรที่ดินพังทลาย และประชาชนสูญเสียความเชื่อมั่นต่อเงินที่ออกโดยรัฐบาลอย่างรุนแรง อัตราการว่างงานพุ่งสูง และมีธนาคารมากถึงราว 50% ทั่วประเทศต้องปิดตัวลง
ปี 1873–1896 โลกเผชิญกับภาวะถดถอยยาวนาน หรือ The Long Depression จุดเริ่มต้นเกิดจากการล่มของตลาดหุ้นเวียนนา (Vienna Stock Exchange)ซึ่งส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปทั่วโลก ฟองสบู่หุ้นรถไฟในสหรัฐฯ แตก ขณะที่เศรษฐกิจอยู่ภายใต้ระบบมาตรฐานทองคำ (Gold Standard) ทำให้เกิดภาวะเงินฝืด ธุรกิจจำนวนมากผลิตสินค้าเกินความต้องการแต่การค้าทั่วโลกชะงัก
ปี 1929–1939 เกิดวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ที่รู้จักกันในชื่อ The Great Depression เริ่มต้นจากเหตุการณ์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ล่มในวัน “Black Tuesday” ตามมาด้วยการล้มของธนาคารจำนวนมาก ภาวะเงินฝืด (Deflation) และกำลังซื้อของผู้บริโภคที่หดตัวอย่างรุนแรง วิกฤติครั้งนี้ลุกลามไปทั่วโลก สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อเศรษฐกิจของยุโรป ละตินอเมริกา และเอเชีย
เขาระบุว่า ไม่ได้ต้องการสร้างความกลัว แต่ต้องการให้ผู้คนตระหนักว่า “เรากำลังเข้าใกล้วิกฤติครั้งใหม่หรือไม่?”พร้อมระบุปัจจัยเสี่ยงที่ชวนให้คิดว่าโลกอาจกำลังเดินเข้าสู่รอบเศรษฐกิจตกต่ำอีกครั้ง ได้แก่
-สงครามกาารค้า
-การล้มของธนาคาร (เริ่มต้นขึ้นแล้ว)
-ฟองสบู่ในดัชนี S&P 500 (SPX) และ NASDAQ
-หนี้สาธารณะพุ่งสูง
-ความขัดแย้งในหลายภูมิภาคทั่วโลก
-ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีน
ก่อนจะทิ้งท้ายว่า “คนส่วนใหญ่จะเพิกเฉย หัวเราะ แล้วก็ใช้ชีวิตต่อไป เพราะความไม่รู้คือความสุข… จนกว่าจะไม่ใช่อีกต่อไป”
ก่อนตั้งคำถามว่า “คุณเตรียมพร้อมรับมือหรือยัง?” และทิ้งท้ายปี 2025–2035 ???
James Wynn เป็นเทรดเดอร์สายเลเวอเรจชื่อดังที่เคยสร้างชื่อจากการเปลี่ยนเงินลงทุนเพียง 7,600 ดอลลาร์ในเหรียญมีม PEPE ให้กลายเป็นกำไรกว่า 25 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 จากนั้นเขาเข้าสู่วงการเทรดสัญญา Perpetual Futures บนแพลตฟอร์ม Hyperliquid และเคยทำกำไรสูงสุดถึง 87 ล้านดอลลาร์แต่สุดท้ายก็สูญเสียทั้งหมดจากการถูกล้างพอร์ต จนขาดทุนกว่า 13 ล้านดอลลาร์
หลังหายไปพักใหญ่ เขากลับมาอีกครั้งในเดือนตุลาคม 2025 พร้อมโพสต์คาดการณ์ตลาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เตือนถึงความเสี่ยงที่ตลาดคริปโทฯ อาจกำลังเข้าสู่ “ช่วงขาลงครั้งใหญ่” สู่ระดับ $88,000–$92,000 ก่อนจะดิ่งต่อไปถึง $67,000 ซึ่งเขามองว่าอาจเป็นจุดที่ “ความกลัวขั้นสุด” ของตลาดจะปรากฏอย่างเต็มรูปแบบ
รายงานและเรียบเรียง : ชัชชญา อังคุลี
✅Better Trade 2025 : ปลดล็อคความคิด พิชิตโอกาส ฉลาดลงทุน
ลงทะเบียนร่วมงานได้ที่ : https://www.zipeventapp.com/e/Better-Trade-2025