ธปท.ยกระดับคุมเข้มร้านทอง สั่งรายงานธุรกรรมการซื้อขายทั้งบนแพลตฟอร์ม และ หน้าร้านหวังสกัดทุนเทา เผยจะเร่งทำเฮียริ่ง เร็ว ๆ นี้ ส่วนเกณฑ์การขยายวงเงินรายได้ต่างประเทศที่ไม่ต้องนำกลับประเทศอยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นแล้ว น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และ โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ขอความร่วมมือร้านทองให้รายงานธุรกรรมการซื้อขายทั้งผ่านแพลตฟอร์มของร้านทอง กับ ธุรกรรมการซื้อขายหน้าร้านทองเป็นรายวัน ตลอดจนให้ธนาคารพาณิชย์ตรวจสอบธุรกรรมซื้อขายทองคำอย่างเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะใบคำสั่งซื้อ ใบการส่งออกและการนำเข้า เพื่อเป็นการยืนยัน และ สามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ " ธุรกรรมทองคำไทย เชื่อมโยงกับค่าเงินบาท ซึ่งความสัมพันระหว่างราคาทองคำและการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทบางวันเพิ่มขึ้น 10-20% โดยต่อจากนี้จะให้ร้านทองรายงานข้อมูล จะมีเกณฑ์ด้านรายได้ มากำหนดว่าร้านใดจะเข้าข่ายการรายงานข้อมูลบ้าง ไม่ได้ครอบคลุมทุกร้าน โดยจะเร่งทำเฮียริ่งเร็ว ๆ นี้"น.ส.ชญาวดี กล่าว 
นอกจากนี้ ธปท. กำลังดำเนินการ หรือ เสนอขยายวงเงินรายได้ต่างประเทศ ไปยังกระทรวงการคลังขยายวงเงินรายได้จากต่างประเทศที่ไม่ต้องนำกลับเข้าประเทศเป็น 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อครั้ง จากเดิมไม่เกิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการเงินตราต่างประเทศและ ลดแรงกดดันค่าเงินบาทแข็งค่า รวมถึงการให้สถาบันการเงินเพิ่มความเข้มงวดในการรับทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับทองคำรายงานธุรกรรมจากผู้ค้าทองคำรายใหญ่ โดยเสนอให้ผู้ค้าทองคำรายใหญ่รายงานข้อมูลธุรกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตาม และ ประเมินผลกระทบต่อค่าเงินบาท "เกณฑ์การขยายวงเงินรายได้ต่างประเทศที่ไม่ต้องนำกลับประเทศ หรือ Repatriation เปิดรับฟังความคิดเห็นแล้ว โดยให้ความเห็นได้ถึงวันที่ 11 ธ.ค. นี้ บนเว็บไซต์ ธปท."น.ส.ชญาวดี กล่าว |