ซีพีอาสา เร่งช่วยเหลือหลังน้ำลด ยังไม่หยุดปฏิบัติการส่งมอบ “ถุงกำลังใจ” ล่าสุด CPO นำทีมพนักงานจากหลากหลายกลุ่มธุรกิจระดมพลังจัดถุงกำลังใจชุดบิ๊กคลีนนิ่ง พร้อมจัดส่งศูนย์พักพิง โรงพยาบาลสงขลานครินทร์

หลังเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้เริ่มคลี่คลาย โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ที่ระดับน้ำลดลงเกือบ 100% เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และเครือข่าย “ซีพีอาสา” เดินหน้าภารกิจช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่องในระยะ “หลังน้ำลด” ซึ่งเป็นช่วงสำคัญที่ครัวเรือนจำนวนมากต้องเผชิญกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทั้งด้านอาหาร เครื่องใช้ และการฟื้นฟูบ้านเรือนจากความเสียหายที่เกิดขึ้น ล่าสุด นางสาว พิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานคณะผู้บริหารทรัพยากรบุคคล เครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมด้วยพนักงานจิตอาสาจากซีพีและหลากหลายบริษัทในเครือได้แก่ ซีพีเอฟ ซีพีออลล์ ซีพีแอ็กซ์ตร้า และกลุ่มทรู ได้รวมตัวกันที่ลานจอดรถแม็คโคร สาขาลาดพร้าว เพื่อร่วมกันแพ็ก “ถุงกำลังใจ” บรรจุอุปกรณ์ทำความสะอาด จำนวน 1,000 ชุด เพื่อนำส่งให้ศูนย์พักพิงโรงพยาบาลสงขลานครินทร์นำส่งถึงประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วน

นางสาวพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานคณะผู้บริหารทรัพยากรบุคคล เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า ภารกิจในครั้งนี้สะท้อน “พลังจิตอาสา” ของพนักงานซีพีจากหลากหลายกลุ่มธุรกิจที่เร่งเข้ามาช่วยเหลือทันทีหลังรับรู้ถึงความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะช่วงหลังน้ำลดซึ่งหลายครอบครัวยังขาดแคลนอุปกรณ์ทำความสะอาดและของใช้จำเป็นสำหรับฟื้นฟูบ้านเรือน

“แรงผลักดันของพนักงานมาจากสิ่งเดียว คือ ‘เห็นคนกำลังลำบากและอยากช่วยทันที’ หลังน้ำลด หลายบ้านต้องทำความสะอาดครั้งใหญ่ แต่ไม่มีแม้แต่อุปกรณ์พื้นฐาน พนักงานของเราที่ทราบสถานการณ์จากพื้นที่จริงจึงรีบมารวมตัวกันตั้งแต่เช้าเพื่อแพ็กถุงกำลังใจให้เสร็จและส่งต่อถึงมือผู้ประสบภัยโดยเร็วที่สุด” นางสาวพิมลรัตน์กล่าว

ประธานคณะผู้บริหารทรัพยากรบุคคล เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพรียงของพนักงานในทุกกลุ่มธุรกิจได้รับแรงใจจากนโยบายของท่านประธานทั้งสามท่าน—ท่านประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์, ท่านประธานกรรมการสุภกิต เจียรวนนท์ และท่านประธานคณะผู้บริหารศุภชัย เจียรวนนท์—ที่ให้ความสำคัญสูงสุดกับการช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤต ทำให้พนักงานทุกคนยิ่งมุ่งมั่น “ลงมือทันที” และช่วยให้เร็วที่สุด

สำหรับ “ถุงกำลังใจชุดบิ๊กคลีนนิ่ง” จำนวน 1,000 ชุดที่จัดเตรียมในครั้งนี้ ได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์ความต้องการจริงของประชาชนหลังน้ำลด โดยบรรจุอุปกรณ์ทำความสะอาดและของใช้จำเป็น ได้แก่ ผงซักฟอก น้ำยาทำความสะอาด ถุงดำ ผ้าอเนกประสงค์ แปรงขัดพื้น และหน้ากากอนามัยซีพี นอกจากนี้ยังสนับสนุน ไม้กวาดทางมะพร้าวจำนวน 2,000 ด้าม เพื่อกระจายให้ประชาชนในพื้นที่ทำความสะอาดบ้านเรือนหลังน้ำลดได้อย่างทั่วถึง

ด้าน นายจอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร ผู้บริหารสูงสุดด้านความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวเสริมว่า ภารกิจ “ซีพีอาสา” หลังน้ำลดในครั้งนี้เป็นตัวอย่างสำคัญของการทำงานด้านความยั่งยืนที่ “เริ่มต้นจากคน” ตามปรัชญา 3 ประโยชน์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์

“ความยั่งยืนของซีพีเริ่มจากการช่วยให้ประชาชนกลับมายืนได้ก่อนครับ ถ้าคนยังลำบาก ชุมชนก็ยังลำบาก และเศรษฐกิจก็เดินต่อไม่ได้ การสนับสนุนถุงกำลังใจเกือบ 6,000 ชุด และการลงแรงของพนักงานหลายร้อยคนตลอดช่วงน้ำท่วมและหลังน้ำลดคือการทำให้สังคมฟื้นตัวอย่างแท้จริง นี่คือความหมายของการยึดปรัชญา 3 ประโยชน์—ประเทศ ประชาชน และองค์กร” นายจอมกิตติกล่าว

ในการนี้ นายจอมกิตติ ได้กล่าวต่อไปว่า การทำงานร่วมกับหลายภาคี โดยเฉพาะศูนย์พักพิงและเครือข่ายในพื้นที่ เช่น โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ รวมถึงความร่วมมือกับภาครัฐ ท้องถิ่น และองค์กรจิตอาสาต่าง ๆ ช่วยให้การกระจายสิ่งของทำได้รวดเร็ว เข้าถึงกลุ่มเปราะบาง และตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะหน้าในพื้นที่ประสบภัยได้อย่างแท้จริง

“น้ำท่วมเป็นวิกฤตที่ไม่มีใครรับมือได้เพียงลำพัง ต้องอาศัยพลังร่วมกันจากทุกภาคส่วน ซีพีอาสาพร้อมทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่เพื่อช่วยให้ประชาชนก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ และกลับมาดำรงชีวิตประจำวันได้เร็วที่สุด” นายจอมกิตติกล่าว

ทั้งนี้ ตลอดช่วงวันที่ 21–30 พฤศจิกายน 2568 เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และกลุ่มธุรกิจในเครือได้ระดมพลัง “ซีพีอาสา ร้อยเรียงความดี ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้” เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้รวมกว่า 55 จุด ครอบคลุม 9 จังหวัด ผ่านการสนับสนุนถุงกำลังใจกว่า 6,000 ชุด วัตถุดิบของสด 15,821 กิโลกรัม ไข่ไก่สด 300,000 ฟอง ไข่สมุนไพรซีพี 30,000 ฟอง อาหารอุ่นพร้อมทาน 7,000 กล่อง เบเกอรี่ 3,000 ชิ้น น้ำดื่ม 76,200 ขวด หน้ากากอนามัย 50,000 ชิ้น ซิมทรู 500 ซิม ข้าวสารตราฉัตร 11,490 กิโลกรัม ข้าวไข่เจียว 8,950 จาน พร้อมส่งรถ –เรือ–อุปกรณ์กู้ภัยและซิมสื่อสารกว่า 500 ซิมลงพื้นที่ รวมถึงการเปิดโรงครัวและสนับสนุนโรงครัวภาคีเครือข่ายอื่น ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนในหลายพื้นที่ ซึ่งทั้งหมดเป็นความร่วมมือจากทุกบริษัทในเครือเพื่อร่วมบรรเทาความเดือดร้อนและฟื้นฟูชุมชนภาคใต้อย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง