ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดแดนลบในวันจันทร์ (1 ธ.ค.) โดยดาวโจนส์ปิดลดลง 427.09 จุด หลังถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ปรับตัวพุ่งสูงขึ้น และข้อมูลเศรษฐกิจที่สะท้อนว่าภาคการผลิตยังได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีนำเข้า ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 47,289.33 จุด ลดลง 427.09 จุด หรือ 0.90% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 6,812.63 จุด ลดลง 36.46 จุด หรือ 0.53% และ ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 23,275.92 จุด ลดลง 89.76 จุด หรือ 0.38%

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต จากสถาบันจัดการด้านอุปทานสหรัฐฯ (ISM) หดตัวเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกันในเดือนพ.ย. จากคำสั่งซื้อที่ซบเซาและราคาต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องมาจากผลกระทบต่อเนื่องจากมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยตลาดส่วนใหญ่ได้สะท้อนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมนโยบายทางการเงินในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ ซึ่งเครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยสูงถึง 85.4%

โจ ซาลุซซี หุ้นส่วน ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าฝ่ายวิจัยโครงสร้างตลาดหุ้นของ Themis Trading ระบุว่า แม้ตลาดยังเดินหน้าตามแรงหนุนจากรายงานผลประกอบการ แต่ปัจจัยที่ทุกคนจับตา คือท่าทีของเฟด พร้อมมองว่าแนวโน้มขาขึ้นของตลาดยังเดินหน้าต่อ แม้อาจชะลอความร้อนแรงลงในช่วงปลายปี

แม้ผู้กำหนดนโยบายทางการเงินหลายราย ยังส่งสัญญาณระมัดระวัง แต่ท่าทีที่สนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายของกรรมการเฟดบางราย รวมถึงรายงานว่า เควิน แฮสเซตต์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทำเนียบขาว เป็นตัวเต็งขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเฟดแทนเจอโรม พาวเวลล์ ทำให้มีความหวังเพิ่มขึ้นว่า เฟดจะผ่อนคลายนโยบายการเงินในอนาคต โดยพาวเวลล์ มีกำหนดกล่าวสุนทรหลังตลาดปิด แต่คาดว่าจะไม่แตะประเด็นนโยบายการเงิน ก่อนการประชุมอย่างเป็นทางการ

นักลงทุนยังรอรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนก.ย. ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันศุกร์นี้

ในตลาดพันธบัตร อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นตามบอนด์ของญี่ปุ่นและยุโรป หลังผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น คาซุโอะ อูเอดะ ส่งสัญญาณว่าเงื่อนไขต่าง ๆ เอื้อต่อการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ฉุดให้หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภคในดัชนี S&P 500 ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นตัวแทนของพันธบัตร ย่อตัวลง

ขณะที่ในฝั่งค้าปลีก บรรดาเชนค้าปลีกขนาดใหญ่ ได้รับความสนใจจากกระแสจับจ่ายในวัน Cyber Monday โดย Adobe Analytics คาดว่า ยอดใช้จ่ายออนไลน์จะอยู่ที่ 14,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยหุ้น Walmart และ Target ปรับขึ้น 0.9% และ 0.8% ตามลำดับ ส่งผลให้ดัชนีค้าปลีก S&P 500 ขยับขึ้น 0.2%

ส่วนหุ้น Synopsys ดีดตัว 4.9% หลัง Nvidia ผู้ผลิตชิป AI รายใหญ่ เปิดเผยว่าได้ลงทุน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในบริษัทซอฟต์แวร์ออกแบบชิปรายนี้

ที่มา Reuters