WASH มั่นใจธุรกิจโตต่อเนื่อง ชี้อยู่ในช่วงขยายสาขาใหม่และอัพเกรดสาขาเดิม ลุ้นครึ่งปีหลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นธุรกิจ เหตุเป็นช่วงฤดูฝนหนุนคนมาซักและอบผ้า พร้อมเล็งนำเงินระดมทุนขยายสาขาใหม่อีก 160 แห่ง ภายในปี 70 และยกระดับสาขาเดิม

นายกวิน กลองกระโทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ WASH เปิดเผย "หลังเข้าซื้อขายตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรก เปิดตลาดที่ 6.10 บาท ลดลง 1.40 บาท หรือ-18.67% จากราคา IPO 7.50 บาท" ว่าในเชิงบริษัทเราเชื่อมั่นว่าธุรกิจยังอยู่ในช่วงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทยังอยู่ในช่วงที่มีโอกาสทั้งการขยายสาขาและการอัพเกรดสาขาที่มีอยู่ให้ได้มาตรฐานและลูกค้าสะดวกสบายมากขึ้น

ทั้งนี้แนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังมองว่าปกติจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนที่จะมีคนมาซักผ้าและอบผ้าค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามผลงานในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทมีผลการดำเนินงานเติบโตเกิน 10% จากปีก่อน ส่วนด้านการขยายสาขาของบริษัทก็มองเห็นโอกาสและศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อมั่นว่าการขยายสาขาของตัวเองจะทำให้รักษาคุณภาพและมาตรฐานได้ รวมถึงจะมีรายได้ที่สม่ำเสมอและเติบโตอย่างมั่นคง

ขณะที่เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทมีแผนจะนำไปใช้ขยายสาขาไม่น้อยกว่า 160 สาขา ภายในช่วง 2 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีทั้งหมดรวม 500 สาขาใน 21 จังหวัด และอีกส่วนหนึ่งจะนำเงินมาปรับปรุงและยกระดับร้านสะดวกซัก WashXpress ของสาขาที่มีอยู่เดิม เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน

"ขอให้ความเชื่อมั่นกับทุกคนว่าบริษัทมีความตั้งใจในการทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน" นายกวิน กล่าว

นายชิษณุพันธ์ ตั้งเฉลิมกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ WASH กล่าวว่าบริษัทวางแผนสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดผ่านการขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ศักยภาพ ผ่านกลยุทธ์การขยายสาขาแบบกลุ่ม (Cluster expansion) ด้วยการเปิดสาขาใหม่ 5-10 แห่ง ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน เพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ (Brand Visibility) ในพื้นที่ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและลดต้นทุนการก่อสร้าง ครอบคลุมทั้งในพื้นที่ 21 จังหวัดที่บริษัทดำเนินการอยู่แล้วซึ่งยังมีศักยภาพในการเติบโตเพิ่มเติม และการรุกเข้าสู่ตลาดใหม่ที่ยังไม่มีการให้บริการ (Untapped Market) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ เพื่อให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ

โดยบริษัทตั้งเป้าจะเปิดสาขาใหม่ที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง เพิ่มอีกอย่างน้อย 240 แห่งภายในสิ้นปี 70 แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ การเปิดสาขาใหม่จำนวน 80 แห่งภายในปี 68 และตามด้วยการเปิดสาขาใหม่อีกไม่น้อยกว่า 160 แห่งในช่วงระหว่างปี 69 - 70 โดยมุ่งเน้นขยายสาขาในรูปแบบที่บริษัทเป็นเจ้าของและบริหารจัดการเอง (Company-Owned) โดยตั้งเป้าสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของและบริหารจัดการเองทะลุ 670 สาขา ภายในปี 70 ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถควบคุมคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการได้อย่างเต็มที่ สร้างความคล่องตัวในการบริหารจัดการ และที่สำคัญคือการสร้างรายได้แบบต่อเนื่อง (Recurring Income) ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการเติบโตอย่างยั่งยืน

นอกเหนือจากการเปิดสาขาใหม่ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการยกระดับสาขาเดิมเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มยอดขาย โดยได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 100 ล้านบาท สำหรับปี 69-70 เพื่อใช้ในการปรับปรุงและยกระดับ (Upgrade) ร้านสะดวกซัก WashXpress ที่มีอยู่เดิม รวมถึงการเพิ่มจำนวนเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าในสาขาที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น, การเพิ่มบริการใหม่ อาทิ ซักอบพับ รับรีด, การปรับปรุงและตกแต่งร้าน (Renovation) เพื่อเสริมภาพลักษณ์ที่ทันสมัย, การขยายพื้นที่จอดรถ, และการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม เช่น ที่นั่งพักคอย และเครื่องปรับอากาศ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดและอำนวยความสะดวกสูงสุดให้แก่ลูกค้า

นางสาวสุธางค์ คนศิลป กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่ามองว่าการเติบโตของ WASH ทั้งในอดีตและสิ่งที่วางแผนกันไว้ในอนาคตค่อนข้างชัดเจน และสถานะการเงินยังค่อนข้างแข็งแกร่ง ซึ่งจากการระดมทุนรอบนี้บริษัทสามารถนำไปขยายสาขาใหม่และปรับปรุงสาขาเดิมเพื่อเพิ่มการเติบโต ทำให้มีความมั่นใจและเชื่อมั่นในแง่ของการเติบโตของผลประกอบการของบริษัท

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการปีนี้ จากที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ว่ารายได้และกำไรของ WASH จะเติบโตในกรอบมากกว่า 25-30% จากปีก่อน แต่ตัวเลขที่ชัดเจนก็อยากให้นักลงทุนดูตามบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ต่างๆ