BANPU  ย้ำควบ BPP หนุนบริษัทฯ เป็นมากกว่าโฮลดิ้ง คอมพานี พร้อมชูธุรกิจหลักใน 4 ด้าน ตั้งเป้า 5 ปี EBITDA มากกว่า 2,000 ล้านดอลล์ เปิดทางลุยแรร์เอิร์ธ -โรงไฟฟ้านิวเคลียร์  ฟาก BPP คาดดีลควบรวมกิจการเสร็จภายใน Q3/69 ยันเดินหน้าจ่ายปันผลตามเดิม

นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยในงาน "Opportunity Day" ว่าการทำข้อเสนอรับซื้อหุ้นของบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP โดยกำหนดราคารับซื้อหุ้นที่ 13.00 บาทต่อหุ้นนั้น มองว่าเป็นราคาที่ผ่านการประเมินมูลค่ากิจการตามหลักสากลเพื่อประกอบการประเมินผลตอบแทนการลงทุน โดยจะไม่มีการเปลี่ยนราคารับซื้อที่ 13.00 บาทต่อหุ้น เพราะมองว่าเป็นราคาที่เหมาะสมแล้ว

ทั้งนี้มองว่าการควบรวมกับ BPP เป็นการปรับโครงสร้างทุนให้มีบริษัทที่จดทะเบียน (บจ.) ที่เดียวในประเทศไทย รวมถึงการทำให้กลุ่ม BANPU มีสัดส่วนธุรกิจไฟฟ้า (Power)และมีกำไรจากไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับจะมีการย้ายธุรกิจพลังงานสะอาดขนาดใหญ่ เช่น โซลาร์ฟาร์ม,วินด์ฟาร์ม และแบตเตอรี่ฟาร์มในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมาอยู่ใน BANPU Power บริษัทใหม่ และทำให้บ้านปูเน็กซ์ เน้นด้าน Retail Energy และลงทุนในด้านเทคโนโลยีต่างๆ

อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้มองว่าเป็นเรื่องของการปรับโครงสร้างและเพิ่มมูลค่าของแต่ละธุรกิจภายใต้ BANPU รวมถึงเพิ่มมูลค่าให้แก่บริษัทมากขึ้นอีกด้วย และทำให้ BANPU เป็นมากกว่าโฮลดิ้ง คอมพานี พร้อมอยากให้ทุกคนมองว่า "BANPU NewCo" จะมีธุรกิจหลัก 4 ด้านที่ชัดเจนมากขึ้น โดยที่จะมีธุรกิจไฟฟ้า (Power) ที่เข้ามาเพิ่มมากขึ้น และทำให้ BANPU มีความหลากหลาย

ขณะที่สำหรับเป้าหมายภายใน 5 ปีข้างหน้า (ปี 68-73) บริษัทตั้งเป้าเพิ่ม EBITDA เป็น 1.5 เท่า หรือมากกว่ามูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 73 และวางงบลงทุนประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์ ภายใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะเน้นด้านธุรกิจก๊าซฯและธุรกิจไฟฟ้ามากขึ้น

ส่วนการขยายธุรกิจเหมืองไปยังแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) ในอนาคตหรือไม่นั้น มองว่าปัจจุบันบริษัทมีการลงทุนในเหมืองนิเกิลแล้วและธุรกิจที่เป็นเทคโนโลยีหรือพลังงานในอนาคตบริษัทมีการติดตามอยู่ตลอด รวมไปถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) ก็มีการศึกษาและติดตามเทรนด์อยู่ตลอด

"สุดท้ายการปรับโครงสร้างครั้งนี้อยากให้ผู้ถือหุ้น BANPU ทุกคนมั่นใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เรามองว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นทุกท่าน และสำหรับพนักงานที่อยู่ใน BANPU ก็ตื่นเต้นกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพราะว่าบริษัทจะมี 4 กลุ่มธุรกิจที่ชัดเจนและมีการทำงานที่ synergy ได้มากขึ้น จึงอยากเชิญชวนผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 ม.ค.69 จะมีการประชุมผู้ถือหุ้น BANPU เรื่องการอนุมัติการควบรวมบริษัท BANPU และ BPP เพื่อเป็นบริษัทใหม่ที่ชื่อว่าบ้านปู" นายสินนท์ กล่าว

นายอิศรา นิโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP กล่าวว่าคาดว่ากระบวนการควบรวมกิจการกับบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU จะแล้วเสร็จภายในช่วงไตรมาส 3/69 โดยการปรับโครงสร้างในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและศักยภาพในการเจริญเติบโตของ BPP ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านพลังงาน และการขับเคลื่อนการเติบโตในธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต

ทั้งนี้ภายหลังการควบรวมบริษัทเสร็จสมบูรณ์และจัดตั้งบริษัทใหม่ "BANPU NewCo" จะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับพลังงานแบบครบวงจรที่ผสานจุดแข็งของทั้ง BPP และ BANPU เข้าด้วยกัน ซึ่งจะสามารถเพิ่มโอกาสและรองรับการเติบโตในทุกช่วงของห่วงโซ่พลังงาน โดยภายใต้บริษัทใหม่จะขับเคลื่อนธุรกิจผ่าน 4 เสาหลัก ได้แก่

1.NEXT-GEN MINING,

2.US CLOSED-LOOP GAS,

3.POWER+ และ

4.FUTURE TECH

ซึ่งแต่ละเสาหลักมีบทบาทที่ชัดเจนและทำงานอย่างสอดประสานกันภายใต้วิสัยน์ทัศน์ "Energy Symphonics" ซึ่งเมื่อรวมตัวกันแล้ว BANPU NewCo จะเป็นกลุ่มพลังงานที่มีทั้งกระแสเงินสดที่มั่นคงและศักยภาพการขยายตัวในอนาคตเพื่อพร้อมสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นและสังคมในระยะยาว

ขณะที่ด้านนโยบายการปันผลระหว่างกาลก่อนการควบรวมเสร็จสิ้น บริษัทจะยังคงดำเนินการจ่ายปันผลตามเดิม โดยในรอบถัดไปบริษัทจะพิจารณาหลังผลประกอบการปี 68 ออกมา ซึ่งคณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาถึงอัตราการจ่ายเงินปันผลที่เหมาะสม ส่วนการประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลที่ออกมาซึ่งคิดเป็น 41% ของกำไรสุทธินั้น เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ปีนี้ตลาดมีความผันผวนค่อนข้างมาก บริษัทจึงต้องสำรองกำไรบางส่วนเพื่อรองรับการลงทุนและเสริมความแข็งแกร่งของฐานะการเงินเพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนได้ยั่งยืนในระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง