JPMorgan เผยตลาดคริปโทฯ ผ่านช่วง “ชำระบัญชีครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์” แล้ว พร้อมชี้ความผันผวนเทียบทองคำลดลง หนุนมุมมองขาขึ้นของบิตคอยน์รอบใหม่
Nikolaos Panigirtzoglou นักวิเคราะห์จาก JPMorgan คาดว่าราคาบิตคอยน์ อาจพุ่งแตะระดับ 170,000 ดอลลาร์ภายใน 6–12 เดือนข้างหน้า โดยอิงจากการเทียบความผันผวนระหว่างบิตคอยน์กับทองคำ ซึ่งชี้ให้เห็นว่า BTC มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นในเชิง “ปรับความเสี่ยงต่อผลตอบแทน”
รายงานระบุว่า ตลาดคริปโทฯ ปรับฐานลงเกือบ 20% จากจุดสูงสุด โดยการร่วงแรงสุดเกิดเมื่อ 10 ตุลาคม จากแรงชำระบัญชีในตลาดสัญญา Perpetual Futures ซึ่งถือเป็นครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ และตามมาด้วยการเทขายเล็กน้อยในวันที่ 3 พฤศจิกายน หลังเกิดกรณีแฮ็ก Balancer มูลค่ากว่า 120 ล้านดอลลาร์ ซึ่งกระทบความเชื่อมั่นในโปรโตคอล DeFi อย่างไรก็ตาม JPMorgan เห็นว่าขณะนี้ “รอบการลดเลเวอเรจ” น่าจะจบลงแล้ว
สัดส่วน Open Interest ของสัญญา Bitcoin Futures ต่อมูลค่าตลาดรวมลดลงจากระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลับสู่ระดับปกติภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ โดยแนวโน้มคล้ายกันนี้ยังเกิดในตลาด Ethereum แม้จะรุนแรงน้อยกว่า ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ชี้ว่า “การฟื้นตัวของตลาดสัญญา Perpetual Futures” คือสัญญาณบวกสำคัญที่บ่งบอกว่าความเสี่ยงเชิงโครงสร้างเริ่มคลี่คลาย
ด้านปัจจัยบวกเพิ่มเติม JPMorgan ระบุว่า อัตราส่วนความผันผวนระหว่าง BTC ต่อทองคำอยู่ที่ราว 1.8 (ต่ำกว่า 2.0) หมายความว่าบิตคอยน์ต้องใช้เงินทุนเสี่ยงมากกว่าทองคำราว 1.8 เท่า หากเทียบจากมูลค่าการลงทุนภาคเอกชนในทองคำรวมราว 6.2 ล้านล้านดอลลาร์ มูลค่าตลาดของบิตคอยน์จะต้องเพิ่มขึ้นประมาณ 67% เพื่อให้เทียบเท่า ซึ่งจะสะท้อนราคาบิตคอยน์ใกล้ระดับ 170,000 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์ระบุว่า ราคาบิตคอยน์ในปัจจุบันยังต่ำกว่าระดับมูลค่ายุติธรรมที่ปรับตามความผันผวนเมื่อเทียบกับทองคำของ JPMorgan ราว 68,000 ดอลลาร์ พร้อมเสริมว่าการคำนวณเชิงกลไกนี้ “สะท้อนโอกาสขาขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของบิตคอยน์ในช่วง 6–12 เดือนข้างหน้า”
ที่มา : theblock.co
