นโยบายการเงินของญี่ปุ่นกลับมาสั่นตลาดเสี่ยงทั่วโลกอีกครั้ง ทั้งหุ้นสหรัฐฯ บิตคอยน์ และบอนด์ ถูกกดดันพร้อมกัน หลังผู้ว่าการ BOJ ส่งสัญญาณ “อาจขึ้นดอกเบี้ย” ในการประชุมเดือนธันวาคม ทำให้นักลงทุนผวาว่า Yen Carry Trade อาจกำลังคลายตัวเหมือนปี 2024

สภาพตลาดโดยรวมในวันนี้ ตัวแปรสำคัญที่กดดันราคายังเป็นแรงขับเคลื่อนระดับมหภาคจากการที่ Fed สิ้นสุดมาตรการดูดสภาพคล่อง (QT) และกระแสปิดสถานะ Yen Carry Trade 

เปิดเดือนธันวาคมด้วยความผันผวนขั้นสุด บิตคอยน์เหวี่ยงกว่า $3,700 ใน 24 ชั่วโมง ร่วงต่ำสุด 83,822 ดอลลาร์ และสูงสุด 87,603 ดอลลาร์ (อ้างอิงจาก binance) ขณะที่กระแสปิดสถานะ Yen Carry Trade ผสม Fed จบ QT กลายเป็นตัวแปรกดดันตลาดทั้งกระดาน

แม้การปิดโปรแกรม QT ของ Fed เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2025 จะช่วยผ่อนแรงตึงด้านสภาพคล่อง และอาจหนุนสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง Bitcoin ได้บ้าง แต่กระแส unwind ของ Yen Carry Trade กลับดึงเงินทุนไหลกลับญี่ปุ่น ทำให้สภาพคล่องโลกยังอยู่ในภาวะถูกดูดออก

โดยยีลด์พันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะ 1.84% สูงสุดตั้งแต่เมษายน 2008 ส่งสัญญาณว่ากระแส Yen Carry Trade ที่ยาวนานกว่า 30 ปีอาจเริ่มคลายตัวจริง เมื่อยีลด์ในญี่ปุ่นเริ่มสูงขึ้น กระแสเงินที่เคยไหลออกก็มีแนวโน้มไหลกลับญี่ปุ่น 

กระแสความกังวลปะทุขึ้นหลังคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ทำให้นักลงทุนผวาว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย “วิกฤติ unwind ปี 2024” ที่เคยเขย่าตลาดทั้งโลก

เหตุการณ์ครั้งนี้คล้ายสถานการณ์ในเดือนสิงหาคม 2024 ซึ่งยีลด์พันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นพุ่งแรงแบบไม่ทันตั้งตัว ส่งผลให้นักลงทุนที่กู้เงินเยนต้นทุนต่ำเพื่อไปลงทุนในสินทรัพย์สหรัฐฯ ถูกบังคับปิดสถานะ (unwind) จากต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น ครั้งนั้นทำเอาตลาดโลกผันผวนหนัก และตอนนี้ตลาดกำลังให้น้ำหนักถึง 80% ว่า BOJ จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม หลังคงดอกเบี้ยมาหลายทศวรรษเพื่อพยุงสภาพคล่อง

นักวิเคราะห์ Thierry Wizman จาก Macquarie Group ระบุว่า “BOJ คือคนที่กำลังกำหนดอารมณ์ตลาดโลกในสัปดาห์นี้” ขณะที่ Karl Schamotta จาก Corpay เสริมว่า ตลาดกำลังเริ่มเดือนธันวาคมแบบปั่นป่วนเพราะสัญญาณเข้มจากญี่ปุ่นและทุนกำลังไหลกลับสู่เยน

ปิดตลาดเดือนพฤศจิกายน บิตคอยน์ให้ผลตอบแทนรายเดือนลดลง 17.67% ขณะที่เดือนธ.ค.เปิดมาสองวันผลตอบแทนลดลง 4.12% นักลงทุนจับตาดูว่าจะเป็นเดือนที่ปิดแท่งเขียวได้หรือไม่ ล้างอาถรรภ์แพทเทิร์นในอดีตที่หากปิดแท่งแดง พ.ย.เดือนต่อมามักไม่รอด 

นอกจากนี้ อีกปัจจัยเสี่ยงที่ปกคลุมตลาดในช่วงนี้ นักลงทุนจับตากลุ่มบริษัท DAT หรือคลังคริปโทฯ โดยเฉพาะตัวพ่ออย่างบริษัท Strategy ที่ตอนนี้แม้จะยังเดินหน้าเก็บบิตคอยน์ตามนโยบายสะสมระยะยาว แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าแรงซื้อเริ่มแผ่วเหลือแค่หลักร้อย BTC จากเคยหลักพัน BTC 

ล่าสุด ซีอีโอให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าไม่มีโยบายจะขาย ยกเว้นคับขันจริงๆ โดยจะพิจารณาจากตัวเลข mNAV หากต่ำกว่า 1 เท่าและบริษัทไม่สามารถระดมเงินทุนได้ ในสถานการณ์นั้นทางออกที่สมเหตุสมผลก็อาจนำไปสู่การพิจารณาขาย BTC บางส่วนเพื่อรักษาสัดส่วนบิตคอยน์ต่อหุ้นแทนที่จะใช้การเพิ่มทุนซึ่งจะยิ่งทำให้เกิดไดลูท แม้การขายยังไม่เกิดขึ้นแต่ข่าวนี้ก็ได้เพิ่มความไม่แน่นอนในตลาดคริปโทฯ

ที่มา : BTC Insights (Binance) binance.com ca.finance.yahoo ainvest

รายงานและเรียบเรียง : ชัชชญา อังคุลี