
ณ ขณะที่รายงาน Bitcoin อยู่ที่ 109,000 ดอลลาร์ ลดลงราว 2% ในรอบ 24 ชั่วโมง ท่ามกลางแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของนโยบายการเงินสหรัฐฯ อีกทั้งยังต้องจับตาการพบกันระหว่าง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และ สี จิ้นผิง วันศุกร์นี้
การปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้ เป็นการลดลงอีก 0.25% ทำให้ระดับดอกเบี้ยนโยบายของเฟดอยู่ที่ช่วง 3.75–4.00% ซึ่งนับเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่สองของปีนี้ หลังจากที่เฟดคงอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องในปีนี้ ก่อนจะเริ่มผ่อนคลายเล็กน้อยในช่วงไตรมาสหลังของปี
แม้ตลาดจะตอบรับในเชิงบวกกับการลดดอกเบี้ย แต่ถ้อยแถลงของ เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กลับทำให้นักลงทุนลดความหวัง โดยเขาระบุว่า “ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัด” ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ครั้งสุดท้ายที่จะมีขึ้นในเดือนธันวาคมหรือไม่
“ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน ว่าจะลดดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือนธันวาคม คณะกรรมการยังมีความเห็นแตกต่างกัน และ ยังเร็วเกินไปที่จะสรุป” พาวเวล กล่าว
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการประกาศ ยุติการทำ QT (Quantitative Tightening) หรือมาตรการดูดสภาพคล่องออกจากตลาด โดยเฟดจะหยุดลดขนาดงบดุลของธนาคารกลางตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. นี้
ขณะเดียวกัน ตลาดยังจับตาการพบกันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่มีกำหนดจะจัดขึ้นในเวที APEC ที่กรุงโซลในวันศุกร์นี้ โดยนักลงทุนหวังว่า จะเกิดความคืบหน้าในการเจรจาการค้า ซึ่งอาจช่วยหนุนสินทรัพย์เสี่ยง หากมีสัญญาณบวกออกมา
ด้านอัลต์คอยน์อื่น ๆ ไม่ได้ปรับตัวลงตาม Bitcoin มากนัก โดย TRUMP ยังพุ่งนำกว่า 14% ตามมาด้วย PUMP และ ZEC ที่เพิ่มขึ้นราว 13% และ 10% ตามลำดับ
มูลค่าตลาดรวมของตลาดคริปโทฯ ลดลงราว 1.92% อยู่ที่ 3.73 ล้านล้านดอลลาร์ โดยดัชนี Fear & Greed จากเว็บไซต์ alternative.me กลับอยู่ในระดับ “กลัว” ที่ 34 คะแนน
ที่มา : cnbc
รายงานและเรียบเรียง : สหรัฐ ฉัตราพงษ์
✅Better Trade 2025 : ปลดล็อคความคิด พิชิตโอกาส ฉลาดลงทุน
ลงทะเบียนร่วมงานได้ที่ : https://www.zipeventapp.com/e/Better-Trade-2025